Thai subtitles for clip: File:2 of 4 - Synthesis -A machine that uses gears, springs and levers to add sines and cosines.webm
Jump to navigation
Jump to search
1 00:00:03,169 --> 00:00:05,180 เครื่องยนตร์มหัศจรรย์นี้ใช้เพียง 2 00:00:05,180 --> 00:00:06,180 เกียร์และสปริง 3 00:00:06,180 --> 00:00:08,090 เพื่อหาผลบวกของไซนูซอยด์. 4 00:00:08,090 --> 00:00:09,990 สิ่งที่เรียกว่าการสังเคราะห์นี้ 5 00:00:09,990 --> 00:00:11,000 สร้างรูปแบบที่สวยงาม 6 00:00:11,000 --> 00:00:12,950 ที่ดูไม่เหมือนไซนูซอยด์เลย. 7 00:00:12,950 --> 00:00:14,440 เครื่องนี้สามารถผลิตลวดลายได้มากมายหลายแบบ เช่น 8 00:00:14,440 --> 00:00:15,120 จังหวะ 9 00:00:15,120 --> 00:00:16,160 ยอดที่มีความเรียบ 10 00:00:16,160 --> 00:00:16,890 มุมที่คมชัด 11 00:00:16,890 --> 00:00:18,599 หรือแม้แต่ขอบที่หยัก. 12 00:00:18,599 --> 00:00:19,410 สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างได้ 13 00:00:19,410 --> 00:00:20,610 ด้วยการใช้ฟังก์ชันนี้ 14 00:00:20,610 --> 00:00:22,650 นี่คือความมหัศจรรย์ของกลไกนี้ 15 00:00:22,650 --> 00:00:23,779 ที่ใช้เพื่อคำนวณฟังก์ชันที่กล่าวมา. 16 00:00:23,779 --> 00:00:26,390 เครื่องนี้มีส่วนสำคัญอยู่ทั้งหมด 5 ส่วน. 17 00:00:26,390 --> 00:00:28,640 ส่วนแรกคือข้อเหวี่ยงที่ทําให้ x แตกต่างกันออกไป . 18 00:00:31,240 --> 00:00:32,580 ส่วนที่ 2 คือเกียร์และลูกเบี้ยว 19 00:00:32,599 --> 00:00:34,840 ที่สามารถสร้างความถี่ได้. 20 00:00:35,800 --> 00:00:37,499 ส่วนที่ 3 อยู่ที่เหนือสิ่งนั้นเล็กน้อย 21 00:00:37,499 --> 00:00:38,329 นั่นก็คือแขนโยก 22 00:00:38,329 --> 00:00:39,769 ที่ใช้สร้างไซนูซอยด์ 23 00:00:39,769 --> 00:00:40,780 และแท่งแอมพลิจูด 24 00:00:40,780 --> 00:00:42,809 ที่ให้ค่าน้ำหนัก (สัมประสิทธิ์) แก่ไซนูซอยด์. 25 00:00:42,809 --> 00:00:44,440 ในส่วนที่ 4 ทางด้านบนนั้นมี 26 00:00:44,440 --> 00:00:45,219 สปริงและคานที่ 27 00:00:45,219 --> 00:00:45,989 ให้ผลรวมของ 28 00:00:45,989 --> 00:00:47,800 ไซนูซอยด์ที่ได้คูณค่าน้ำหนัก (สัมประสิทธิ) แล้ว. 29 00:00:48,900 --> 00:00:50,760 และส่วนสุดท้าย บริเวณด้านหน้า 30 00:00:50,769 --> 00:00:51,989 เป็นกลไกในการบันทึก 31 00:00:52,000 --> 00:00:54,440 ค่าผลรวมลงบนแผ่นกระดาษ. 32 00:00:59,940 --> 00:01:01,020 บริเวณใจกลางของเครื่องนี้ 33 00:01:01,030 --> 00:01:03,289 จะมีเกียร์ 2 ทั้งหมดชุด. 34 00:01:03,289 --> 00:01:04,369 โดยชุดที่เป็นรูปทรงกรวยจะมี 35 00:01:04,369 --> 00:01:05,940 เกียร์ 20 อัน ที่แตกต่างกันในแนวเดียวกัน 36 00:01:05,940 --> 00:01:08,350 ไม่ว่าจะเป็นทั้งขนาดหรือจำนวนซี่ก็ตาม. 37 00:01:08,350 --> 00:01:09,920 มันประกอบชุดทรงกระบอกของ 38 00:01:09,920 --> 00:01:12,820 20 เกียร์ที่ขนาดเดียวกันหมด. 39 00:01:12,820 --> 00:01:13,500 ลองจับตาดูว่าเกิดอะไรขึ้น 40 00:01:13,500 --> 00:01:14,880 ในระหว่างฉันหมุนข้อเหวี่ยงนี้. 41 00:01:14,880 --> 00:01:16,320 เกียร์บนทรงกรวย 42 00:01:16,320 --> 00:01:18,120 หมุนรอบแกนไปด้วยกันทั้งหมด. 43 00:01:18,120 --> 00:01:19,759 เกียร์บนชุดรูปทรงกระบอก 44 00:01:19,759 --> 00:01:21,350 สามารถหมุนแยกกันได้ 45 00:01:21,350 --> 00:01:22,590 และแต่ละอันหมุนตามอัตราที่กำหนด 46 00:01:22,590 --> 00:01:23,600 โดยมีการสอดคล้องกับ 47 00:01:23,600 --> 00:01:25,040 เกียร์ที่อยู่ด้านบนของกรวย. 48 00:01:25,040 --> 00:01:26,520 เกียร์นี้หมุนเป็นสองเท่า 49 00:01:26,530 --> 00:01:28,420 ของความเร็วเกียร์ตัวนี้ 50 00:01:28,420 --> 00:01:30,210 ในขณะที่เกียร์ตัวนี้เร็วกว่าถึง 3 เท่า 51 00:01:30,210 --> 00:01:31,920 และอีกต่อๆไป. 52 00:01:31,920 --> 00:01:32,649 เกียร์พวกนี้สามารถสร้าง 53 00:01:32,649 --> 00:01:35,549 ความถี่ที่แตกต่างกันได้. 54 00:01:39,660 --> 00:01:40,880 ลูกเบี้ยวในแต่ละเกียร์ 55 00:01:40,890 --> 00:01:42,030 สามารถทำให้แขนโยก 56 00:01:42,030 --> 00:01:42,640 ขึ้นและลง 57 00:01:42,640 --> 00:01:44,479 ผ่านคันที่เชื่อมต่อกันอยู่. 58 00:01:44,479 --> 00:01:45,679 ในระหว่างที่เกียร์เเต่ละอันทำการหมุน 59 00:01:45,679 --> 00:01:47,060 แขนโยกที่สอดคล้องกันอยู่ก็ 60 00:01:47,060 --> 00:01:48,819 ลากเส้นขึ้นและลง 61 00:01:48,819 --> 00:01:50,049 หรือทำการเคลื่อนไหวแบบไซนูซอยด์ 62 00:01:50,049 --> 00:01:51,450 โดยมีความถี่เท่าเทียมกัน. 63 00:01:51,450 --> 00:01:51,990 ยกตัวอย่างเช่น 64 00:01:51,990 --> 00:01:52,899 แขนโยกอันแรกนี้ 65 00:01:52,899 --> 00:01:53,850 แกว่งเพื่อจะได้ค่า 66 00:01:53,850 --> 00:01:55,149 cos(1x) 67 00:01:55,149 --> 00:01:57,319 อันที่ 10 ผลิตค่า cosine (10x) 68 00:01:57,319 --> 00:01:59,170 และอันที่ 20 ผลิตค่า cosine (20x). 69 00:01:59,170 --> 00:02:01,090 ระหว่างนี้แขนที่อยู่ระหว่าง 70 00:02:01,090 --> 00:02:02,340 สามารถทำการผลิต cosine (2x) 71 00:02:02,340 --> 00:02:02,840 3x 72 00:02:02,840 --> 00:02:03,399 4x 73 00:02:03,399 --> 00:02:04,899 และต่อไปเรื่อยๆ. 74 00:02:06,620 --> 00:02:08,040 ณ ด้านล่างสุด ชุดของ 75 00:02:08,050 --> 00:02:09,310 แท่งเหล็กที่ยาว ตั้ง 76 00:02:09,310 --> 00:02:11,420 วางอยู่บนแขนโยกแต่ละแขน 77 00:02:11,420 --> 00:02:12,510 ณ ด้านบนของแท่งเหล็ก 78 00:02:12,510 --> 00:02:13,530 ที่ได้ยึดติดกับคันโยกนั้น 79 00:02:13,530 --> 00:02:15,709 มีสปริงติดตั้งไว้อยู่. 80 00:02:15,709 --> 00:02:16,980 ตำแหน่งของแขนโยก 81 00:02:16,980 --> 00:02:19,730 บนแท่งเหล็กจะบ่งบอกค่าสัมประสิทธิ์ของฟังก์ชั่น sin(x). 82 00:02:19,730 --> 00:02:21,110 เมื่อฉันเลื่อนแท่งนี้ไปตรงขอบ 83 00:02:21,110 --> 00:02:21,989 ของแขนโยก 84 00:02:21,989 --> 00:02:23,409 คันโยกด้านบนจะเริ่มสูงขึ้น 85 00:02:23,409 --> 00:02:25,470 นั่นทำให้ได้ค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับบวก 10 86 00:02:25,470 --> 00:02:26,280 พอย้ายมันกลับมาที่ 87 00:02:26,280 --> 00:02:27,409 การหมุนของแขนโยก 88 00:02:27,409 --> 00:02:28,340 คันโยกกลับไปที่ 89 00:02:28,340 --> 00:02:29,760 ตำแหน่งเริ่มแรก 90 00:02:29,760 --> 00:02:31,849 จะได้ค่าสัมประสิทธิ์เป็น 0. 91 00:02:31,849 --> 00:02:33,019 และเมื่อฉันเคลื่อนมันต่อเนื่องไป 92 00:02:33,019 --> 00:02:33,909 ไปอยู่มุมของฝั่งตรงข้าม 93 00:02:33,909 --> 00:02:34,900 คันโยกก็ให้ค่า 94 00:02:34,900 --> 00:02:37,620 ค่าสัมประสิทธิ์ติดลบ 10. 95 00:02:40,320 --> 00:02:42,100 ต่อจากนี้ ฉันจะสาธิตว่าเครื่องยนต์นี้ 96 00:02:42,110 --> 00:02:43,629 สามารถรวมผลของการเคลื่อนไหวแบบไซนูซอยด์ 97 00:02:43,629 --> 00:02:45,260 โดยวิธีการเฉลี่ยถ่วงนำ้หนักของค่าสัมประสิทธิ์ของฟังก์ชั่น sin(x). 98 00:02:45,260 --> 00:02:46,560 ฉันจะตั้งค่าเครื่องนี้ให้ 99 00:02:46,560 --> 00:02:47,510 สร้างจังหวะ 100 00:02:47,510 --> 00:02:53,050 โดยการใช้ sin (12x) กับ sin (10x). 101 00:02:59,020 --> 00:03:00,720 คันโยกแต่ละอันที่อยู่ข้างบนเครื่อง 102 00:03:00,730 --> 00:03:02,129 มีสปริงเชื่อมพวกมัน 103 00:03:02,129 --> 00:03:03,599 เข้ากับแท่งเหล็กที่ยึดติดกับจุดหมุน. 104 00:03:03,599 --> 00:03:05,689 สปริงอันใหญ่ปรับสมดุลของการดึงของ 105 00:03:05,689 --> 00:03:09,149 สปริงทั้งหมดที่อยู่บนคันโยก. 106 00:03:12,640 --> 00:03:14,459 ถ้าเรามองดูข้างบนเราจะเห็นได้ว่าสปริง 107 00:03:14,459 --> 00:03:15,230 ยืดออกมากกว่า 108 00:03:15,230 --> 00:03:17,570 1 ฟุตจากบนเครื่อง. 109 00:03:18,540 --> 00:03:19,660 ระหว่างที่ฉันกำลังเปิดข้อเหวี่ยง 110 00:03:19,670 --> 00:03:20,470 ของแท่งแอมพลิจูด 111 00:03:20,470 --> 00:03:22,030 ทำให้คันโยกสปริง 112 00:03:22,030 --> 00:03:22,819 ขึ้นแล้วลง 113 00:03:22,819 --> 00:03:24,269 เลยทำให้ 114 00:03:24,269 --> 00:03:26,529 แกนกลางสามารถขยับได้. 115 00:03:27,650 --> 00:03:29,090 เพราะว่าสปริงทุกอันดึงอยู่ตรง 116 00:03:29,090 --> 00:03:30,159 แถบหมุนเดียวกันที่ 117 00:03:30,159 --> 00:03:32,899 ได้รวมค่าการกระจัดไว้ 118 00:03:38,020 --> 00:03:39,300 ถ้าเรามองไป 119 00:03:39,310 --> 00:03:40,959 ที่แถบหมุนที่เราเห็น 120 00:03:40,959 --> 00:03:42,840 มันกวาดส่วนโค้งเล็กๆออกมา 121 00:03:42,840 --> 00:03:43,980 เราแทบไม่เห็นมันเคลื่อน 122 00:03:43,980 --> 00:03:46,480 ขึ้นแล้วลง. 123 00:03:48,300 --> 00:03:50,180 เรากลับมาด้านหน้าเพื่อดูวิธีการที่ 124 00:03:50,180 --> 00:03:51,870 เครื่องยนต์ขยายการเคลื่อนไหว 125 00:03:51,870 --> 00:03:53,530 และลงบันทึก. 126 00:03:53,530 --> 00:03:54,980 คันโยกจะขยายผล 127 00:03:54,980 --> 00:03:56,380 จากผลบวก 128 00:03:57,160 --> 00:04:00,060 แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวที่น้อยมาก 129 00:04:03,890 --> 00:04:05,730 ลวดเส้นนี้เชื่อมคันโยก 130 00:04:05,730 --> 00:04:07,319 กับชุดวงล้อศูนย์กลาง 131 00:04:07,319 --> 00:04:10,579 ที่ขยายการเคลื่อนไหวได้มากขึ้น. 132 00:04:13,100 --> 00:04:14,780 ลวดนี้ดึงดุมของ 133 00:04:14,780 --> 00:04:17,660 ล้อด้านใน. 134 00:04:17,680 --> 00:04:19,080 ระหว่างที่มีลวดอีกเส้นนึงพันอยู่ 135 00:04:19,090 --> 00:04:22,070 ข้างนอกของล้อ. 136 00:04:24,060 --> 00:04:26,360 ลวดที่พันอยู่กับล้อที่ใหญ่กว่า 137 00:04:26,370 --> 00:04:28,510 จะเลื่อนปากกาไปทางแนวตั้ง 138 00:04:30,420 --> 00:04:31,380 เมื่อพวกชุดเกียร์ 139 00:04:31,390 --> 00:04:32,760 ที่ติดอยู่กับข้อเหวี่ยง 140 00:04:32,760 --> 00:04:33,920 เริ่มทำการขยับกระดาษ 141 00:04:33,920 --> 00:04:36,260 มาใต้ปากกา. 142 00:04:36,260 --> 00:04:37,320 ข้อเหวี่ยงอันเดิมนี้เองที่ 143 00:04:37,320 --> 00:04:38,300 สามารถหมุนเกียร์เพื่อ 144 00:04:38,300 --> 00:04:39,700 สร้างไซนูซอยด์ 145 00:04:39,700 --> 00:04:40,450 และสามารถเคลื่อน 146 00:04:40,450 --> 00:04:42,270 แท่งนี้ขึ้นและลง. 147 00:04:43,160 --> 00:04:44,830 สิ่งที่น่าทึ่งเท่ากับการสังเคราะห์นั้นคือ 148 00:04:44,830 --> 00:04:46,780 ผลบวกของไซนูซอยด์ทั้งหมด 149 00:04:46,780 --> 00:04:47,940 ทําให้เครื่องนี้สามารถทำอะไรสักอย่าง 150 00:04:47,940 --> 00:04:50,250 ที่สร้างความประทับใจให้ฉัน. 151 00:04:50,250 --> 00:04:51,890 ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันคาปใดๆ 152 00:04:51,890 --> 00:04:53,600 มันจะสามารถคำนวณคำตอบที่ถูก 153 00:04:53,600 --> 00:04:55,700 ของ sine และ cosine ที่ต้องใช้ 154 00:04:55,700 --> 00:04:57,360 ในการสังเคราะห์ให้ฟังก์ชันนั้น. 155 00:04:57,360 --> 00:04:58,600 การทำความเข้าใจวิธีการ 156 00:04:58,600 --> 00:04:59,950 ที่เรียกว่าวิเคราะห์จะทำให้ 157 00:04:59,950 --> 00:05:00,980 ในวิดีโอต่อไป 158 00:05:00,980 --> 00:05:02,170 ช่วยให้เราทำความเข้าใจ 159 00:05:02,170 --> 00:05:02,920 เกี่ยวกับเครื่องเครื่องนี้ 160 00:05:02,920 --> 00:05:04,530 โดยการดูการทำงานของมัน 161 00:05:04,530 --> 00:05:06,100 ในอีกมุมมองหนึ่ง. 162 00:05:06,100 --> 00:05:07,140 ฉันชื่อบิว Hammack 163 00:05:07,140 --> 00:05:08,060 เป็นนักวิศวะ. 164 00:05:09,220 --> 00:05:10,360 ดูวิดีโอการวิเคราะห์ 165 00:05:10,360 --> 00:05:12,410 ในวิดีโอถัดไปที่อยู่ในซีรีส์. 166 00:05:12,410 --> 00:05:13,160 กดตรงนี้ถ้าท่านอยากจะ 167 00:05:13,160 --> 00:05:14,790 เรียนรู้เกี่ยวกับหนังสือและโพสต์เตอร์ 168 00:05:14,790 --> 00:05:15,440 ที่ตั้งขายมากกว่านี้. 169 00:05:15,440 --> 00:05:16,830 หรือ ดูวิดีโอคลิปนี้ 170 00:05:16,830 --> 00:05:17,970 ที่เราจะดู 171 00:05:17,970 --> 00:05:19,380 ทุกหน้าในหนังสือ. 172 00:05:19,380 --> 00:05:20,750 แถมก็คือ 173 00:05:20,750 --> 00:05:21,600 พวกคุณสามารถดูเครื่องนี้ 174 00:05:21,600 --> 00:05:23,350 หมุนไปหมุนมาได้.